ชื่อสินค้า : โซดาไฟน้ำ 50% (Sodium Hydroxide 50%)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sodium Hydroxide 50%
สูตรเคมี : NaOH
Packing : แกลลอน
Capacity : 25 kg. , 30 kg.

คุณสมบัติ

• โซเดียม ไฮดรอกไซด์ 50% ชนิดน้ำ (Sodium hydroxide Solution 50%) (NaOH) หรือ โซดาไฟ มีความเข้มข้น 50% มีฤทธิ์เป็นด่าง สามารถละลายในน้ำได้ดี ใช้เพื่อทำปรับสภาพความเป็นกรดของผลิตภัณฑ์ให้กลายเป็นกลาง, มักใช้ผสมทำสบู่ เป็นสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเนื่องจากคุณสมบัติเป็นเบสแก่ ประกอบด้วยโลหะโซเดียมและเบสไฮดรอกไซด์ ใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ สบู่ และผงซักฟอก เคมีภัณฑ์ทำความสะอาด โรงกลั่นน้ำมัน การใช้งานทางอุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเส้นใยเรยอน สิ่งทอ ใช้ในการฟอกย้อม ล้างสีไหม และอื่นๆ นอกจากนี้ช่างเจียระไนพลอยก็ใช้ในขั้นตอนล้างเม็ดพลอยที่เจียระไนเสร็จแล้ว

ประโยชน์

• ใช้สำหรับอุตสาหกรรมผลิตสบู่ ด้วยการทำปฏิกิริยากับไขมันเปลี่ยนเป็นสบู่
• ใช้ในการผลิตสารชำระล้างต่างๆ เช่น น้ำยาล้างจาน สบู่เหลว
• ใช้สำหรับขจัดคราบสกปรก และสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำ ด้วยก้อนหรือละลายน้ำเทราดบริเวณที่มีการอุดตันของท่อ
• ใช้สำหรับปรับสภาพความเป็นกรดของน้ำให้เป็นด่าง โดยเฉพาะในระบบบำบัดน้ำเสียที่ต้องปรับความเป็นกรด-ด่างของน้ำ
• ใช้สำหรับการตกตะกอนของแร่ธาตุหรือโลหะหนักในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย
• ใช้ฟื้นสภาพของเรซินของระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ
• ใช้ในกระบวนการฟอกย้อมไหม โดยเฉพาะขั้นตอนการลอกกาวไหมที่ต้องต้มละลายกาวไหมด้วยโซดาไฟ สำหรับการฟอกไหมในระดับครัวเรือน ชาวบ้านเรียกโซดาไฟว่า ผงมัน ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายเคมีฟอกไหม
• ใช้เป็นสารละลายในปฎิกริยา ไฟฟ้าเคมี (Electrolysis) ใช้ในการทำให้บริสุทธิ์ของสินค้าอื่น เช่นน้ำมันดิบ เพราะสามารถจับกับอิออนของสารแขวงลอยอื่นๆได้ดี

ข้อควรระวัง

• ห้ามใช้โซดาไฟน้ำร่วมกับน้ำยาล้างท่อ
• ระวังอย่าให้เข้าตา
• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
• ก่อนใช้ควรศึกษาวิธีการใช้งานให้ละเอียด
• ควรใช้แว่นตาป้องกัน อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ถุงมือกันสารเคมี

การปฐมพยาบาลเบื้องตัน

• กรณีกลืนกิน ห้ามทำให้อาเจียร ให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งแพทย์โดยเร็วที่สุด
• กรณีเข้าตา ให้ล้างน้ำสะอาดปริมาณมากๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที หากอาการยังไม่ดีขึ้น ให้นำตัวส่งแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป
• กรณีสัมผัส จะมีอาการแสบร้อน ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆ โดยทันที
• กรณีสูดหรือ ดม ให้รีบนำตัวผู้ป่วยออกมารับอากาศบริสุทธิ์ หากผู้ป่วยรู้สึกไม่ดีขึ้นหรือหากใจติดขัด (ในกรณีรับสารมากเกิน) ให้รีบนำตัวผู้ป่วยส่งแพทย์